กลุ่มศรัทธาหลวงปู่ถ้าเมตตา
๖ แผ่นดิน และเปิดจองวัตถุมงคลทั่วไทย
หลวงปู่ถ้า
อนาลโย เป็นพระเกจิอริยสงฆ์ วัตถุมงคลของท่าน มีชาวต่างชาตินำไปลงเว็บไซรให้เช่าบูชาในต่างแดน
อีกหน่อยวัตถุมงคลของท่านจะหายาก “เว็บไซรต่างชาติ”กลุ่มหลวงปู่ถ้า อนาลโยอาจจะมีมากมายหลายกลุ่ม
นี่อาจเป็นกลุ่มหนึ่งที่จะให้ท่านเลือก เพื่อศึกษาเผยแพร่บารมีร่วมกัน
...#ประวัติโดยย่อ หลวงปู่ถ้า อนาลโย พระเกจิ ๕ แผ่นดิน เกิดวันที่ ๔ มกราคม ปีขาล พ.ศ.๒๔๕๗ ที่บ้านเลขที่ ๓๒ หมู่ ๒ ต.บุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นบิดาชื่อ นายขันธุ์ มารดาชื่อ นางตั้น สุวรรณไตร อุปสมบทครั้งแรก เมื่ออายุ ๒๑ ปี ในปีพ.ศ.๒๔๗๘ เคยจำพรรษาที่วัดป่าดงคำชี จังหวัดกาฬสินธุ์ ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าทศพลมังคลาราม บ้านบุ่งเลิศ ตำบลบุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ศึกษาเล่าเรียนธรรมะ เป็นเวลา ๑๕ พรรษา ด้วยภารกิจทางครอบครัว ที่หลวงปู่ต้องไปแก้ปัญหาด้วยตนเอง จึงได้ ลาสิขาบท เมื่อสะสางปัญหาต่างๆแล้วเสร็จ
การอุปสมบทครั้งที่ ๒
ด้วยใจที่ไฝ่การบรรพชา อุปสมบท ถือศีลบำเพ็ญเพียรในการเจริญกรรมฐานจึงเข้าสู่เพศบรรพชิตอีกครั้ง ที่ วัด บึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด โดยขณะนั้นท่าน มี อายุ ๗๗ ปี มี
**พระราชสารสุธี เป็นพระอุปัชฌาย์
**พระมหาฉลอง วิริยโสภโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ที่๑
**พระมหาสมภาร มหาปัญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ที่ ๒
เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา อบรมสั่งสอนพุทธศาสนิกชน ให้เข้าถึงธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากอุปสมบทหลวงปู่ถ้าฯได้ออกธุดงค์ ปลีกวิเวกไปตามสถานที่ต่างๆ ธุดงค์ลัดเลาะตามป่าเขาลำเนาไพรทั้งในเขตประเทศไทย และข้ามฝั่งเข้าสู่ดินแดนปราสาทขอมประเทศเขมร ได้ไปพบกับพระอาจารย์ไพร ผู้มีวิชาแก่กล้า ปราชญ์เปรื่องเลื่องลือในด้านวิชาอาคม มนต์ดำ มหาเสน่ห์ และการทำเครื่องรางของขลัง จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ พระอาจารย์ไพรได้ถ่ายทอดวิชาอาคมสายต่างๆให้โดยมิได้ปิดบังใดๆ หลวงปู่ฯอยู่ร่ำเรียนวิชาด้วยเป็นระยะเวลา ๓ ปี เมื่อหลวงปู่ถ้าฯเห็นว่าการร่ำเรียนวิชาอาคมตำหรับเขมรสำเร็จลุล่วง จึงกราบลาพระอาจารย์ไพร ผู้เป็นอาจารย์ หลวงปู่ถ้าฯ เดินธุดงค์ออกจากประเทศเขมรมุ่งหน้าสู่บ้านเกิด เพื่อนำวิชาอาคมที่ได้เล่าเรียนมาจากครูบาอาจารย์ มาช่วยเหลือญาติโยม ในการทำมาค้าขาย ทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ หลวงปู่ถ้า อนาลโย เคยยออกธุดงค์ร่วมกับสหธรรมิกศิษย์ผู้พี่ หลวงปู่เทศ เทศรังสี หลวงปู่จาม มหาปุญโญ หลวงปู่หล้า เขมปัตโตไปหลายสถานที่ทั้งในประเทศไทย ลาว เขมร และประเทศพม่า การเดินธุดงค์สมัยนั้นต้องเดินลัดเลาะไปตามป่าเขาลำเนาไพร มีแต่ช้าง เสือ อสรพิษที่ดุร้ายและสิ่งลี้ลับ ล้วนแต่อันตรายทั้งสิ้น แต่ก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายมาได้ด้วย การปฎิบัติภาวนาสมาธิ การเจริญกรรมฐาน เมตตา แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยธรรมะ
จน วันคืนผ่าน สังขารไม่เอื้ออำนวย บรรดาลูกๆของหลวงปู่เห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะหยุดธุดงค์แล้วมาจำวัดที่ บ้านเกิด จนปัจจุบัน
ครั้งหนึ่งคณะลูกศิษย์บ่ถึงความเก่งกล้าด้านวิชาอาคม ของหลวงปู่ฯจึงขออนุญาตสร้างเครื่องราง หนูดูดนมแมว พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม มวลสารต่างๆที่นำมาสร้าง ประกอบไปด้วย รกแมวดำ ๙ ตัว น้ำตาปลาพะยูน ว่านดอกทอง ผงไม้รัก ไม้ขนุน ว่านนางอกแตก นำมาผสมกันเติมผงสวาทเรื่อยๆจนน้ำมันเดือดแล้วค่อยยกลง นำมากดพิมพ์ด้วยมือขึ้นรูปนำลงใส่ในไหฝังดิน พันด้วยด้ายสายสินธุ์โยงขึ้นมาให้หลวงปู่เสกเป็นเวลานานกว่า ๑ ปี จนแมวกับหนูตัวเป็นๆวิ่งมานอนเกลือกกลิ้งเล่นกัน ตรงพื้นดินบริเวณที่ฝังไหเครื่องราง ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เมื่อหลวงปู่เห็นว่าเครื่องรางมีพุทธคุณเข้มขลัง จึงบอกให้ลูกศิษย์ขุดขึ้นมาใช้ เป็นที่ต้องการของพ่อค้า แม่ค้า มีไว้ติดตัวทำมาค้าขายดี คนทำงานก็เช่นกันมีไว้ติดตัวนายเมตตา เพื่อนร่วมงานที่เคยกลั่นแกล้งต่างก็มาเป็นมิตร แม้แต่คนจีนแผ่นดินใหญ่ มาเลเซีย ฮ่องกง ต่างก็แสวงหาเพื่อให้ได้มาครอบครอง เพราะมีหนูดูดนมแมวไว้ติดตัวอธิษฐานอะไรก็สำเร็จ จนเป็นที่โด่งดัง “เครื่องรางหนูดูดนมแมว” ทำให้ผู้ที่นิยมเครื่องราง ที่มีพุทธคุณแรงๆทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ต่างก็รู้จัก หลวงปู่ถ้า อนาลโย พระกรรมฐานสายป่าเจ้าตำหรับวิชาเขมร
#ทำเนียบวัตถุมงคลและเครื่องลาง
**เหรียญครึ่งองค์ พญานาค
**หนูดูดนมแมวหันซ้าย หนูสามตัว
**หนูดูดนมแมวหันขวาวัดสร้างเอง
**ขุนแผนพรายพระกาฬ
**พระลักษณ์หน้าทอง
**หนูดูดนมแมวสามสี
**เหรียญอายุยืน
**เหรียญ และ ล็อคเก๊ตเมตตา๕๙
**รูปหล่อลอยองค์ อนันตโชค
**ขุนแผนกามเทพเสน่หาบูชาครู๖๐
**เสมารุ่น มหาบารมีเศรษฐีพันล้าน
**เหรียญพรหมสี่หน้า
**ผ้ายันต์หนูดูดนมแมว
**เหรียญเจริญพร หนุมานบัลดาลโชค
**พระผงหลวงปู่นาคา
**หนูดูดนมแมว รุ่น อิทธิฤทธิ์อนาลโย
**หนูดูดนมแมว รุ่น รวยทันใจ
และยังไม่รวมเครื่องรางอื่นๆอีกมากมาย
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม.. ทัช ร้อยเอ็ด 0994652994
...#ประวัติโดยย่อ หลวงปู่ถ้า อนาลโย พระเกจิ ๕ แผ่นดิน เกิดวันที่ ๔ มกราคม ปีขาล พ.ศ.๒๔๕๗ ที่บ้านเลขที่ ๓๒ หมู่ ๒ ต.บุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นบิดาชื่อ นายขันธุ์ มารดาชื่อ นางตั้น สุวรรณไตร อุปสมบทครั้งแรก เมื่ออายุ ๒๑ ปี ในปีพ.ศ.๒๔๗๘ เคยจำพรรษาที่วัดป่าดงคำชี จังหวัดกาฬสินธุ์ ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าทศพลมังคลาราม บ้านบุ่งเลิศ ตำบลบุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ศึกษาเล่าเรียนธรรมะ เป็นเวลา ๑๕ พรรษา ด้วยภารกิจทางครอบครัว ที่หลวงปู่ต้องไปแก้ปัญหาด้วยตนเอง จึงได้ ลาสิขาบท เมื่อสะสางปัญหาต่างๆแล้วเสร็จ
การอุปสมบทครั้งที่ ๒
ด้วยใจที่ไฝ่การบรรพชา อุปสมบท ถือศีลบำเพ็ญเพียรในการเจริญกรรมฐานจึงเข้าสู่เพศบรรพชิตอีกครั้ง ที่ วัด บึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด โดยขณะนั้นท่าน มี อายุ ๗๗ ปี มี
**พระราชสารสุธี เป็นพระอุปัชฌาย์
**พระมหาฉลอง วิริยโสภโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ที่๑
**พระมหาสมภาร มหาปัญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ที่ ๒
เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา อบรมสั่งสอนพุทธศาสนิกชน ให้เข้าถึงธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากอุปสมบทหลวงปู่ถ้าฯได้ออกธุดงค์ ปลีกวิเวกไปตามสถานที่ต่างๆ ธุดงค์ลัดเลาะตามป่าเขาลำเนาไพรทั้งในเขตประเทศไทย และข้ามฝั่งเข้าสู่ดินแดนปราสาทขอมประเทศเขมร ได้ไปพบกับพระอาจารย์ไพร ผู้มีวิชาแก่กล้า ปราชญ์เปรื่องเลื่องลือในด้านวิชาอาคม มนต์ดำ มหาเสน่ห์ และการทำเครื่องรางของขลัง จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ พระอาจารย์ไพรได้ถ่ายทอดวิชาอาคมสายต่างๆให้โดยมิได้ปิดบังใดๆ หลวงปู่ฯอยู่ร่ำเรียนวิชาด้วยเป็นระยะเวลา ๓ ปี เมื่อหลวงปู่ถ้าฯเห็นว่าการร่ำเรียนวิชาอาคมตำหรับเขมรสำเร็จลุล่วง จึงกราบลาพระอาจารย์ไพร ผู้เป็นอาจารย์ หลวงปู่ถ้าฯ เดินธุดงค์ออกจากประเทศเขมรมุ่งหน้าสู่บ้านเกิด เพื่อนำวิชาอาคมที่ได้เล่าเรียนมาจากครูบาอาจารย์ มาช่วยเหลือญาติโยม ในการทำมาค้าขาย ทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ หลวงปู่ถ้า อนาลโย เคยยออกธุดงค์ร่วมกับสหธรรมิกศิษย์ผู้พี่ หลวงปู่เทศ เทศรังสี หลวงปู่จาม มหาปุญโญ หลวงปู่หล้า เขมปัตโตไปหลายสถานที่ทั้งในประเทศไทย ลาว เขมร และประเทศพม่า การเดินธุดงค์สมัยนั้นต้องเดินลัดเลาะไปตามป่าเขาลำเนาไพร มีแต่ช้าง เสือ อสรพิษที่ดุร้ายและสิ่งลี้ลับ ล้วนแต่อันตรายทั้งสิ้น แต่ก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายมาได้ด้วย การปฎิบัติภาวนาสมาธิ การเจริญกรรมฐาน เมตตา แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยธรรมะ
จน วันคืนผ่าน สังขารไม่เอื้ออำนวย บรรดาลูกๆของหลวงปู่เห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะหยุดธุดงค์แล้วมาจำวัดที่ บ้านเกิด จนปัจจุบัน
ครั้งหนึ่งคณะลูกศิษย์บ่ถึงความเก่งกล้าด้านวิชาอาคม ของหลวงปู่ฯจึงขออนุญาตสร้างเครื่องราง หนูดูดนมแมว พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม มวลสารต่างๆที่นำมาสร้าง ประกอบไปด้วย รกแมวดำ ๙ ตัว น้ำตาปลาพะยูน ว่านดอกทอง ผงไม้รัก ไม้ขนุน ว่านนางอกแตก นำมาผสมกันเติมผงสวาทเรื่อยๆจนน้ำมันเดือดแล้วค่อยยกลง นำมากดพิมพ์ด้วยมือขึ้นรูปนำลงใส่ในไหฝังดิน พันด้วยด้ายสายสินธุ์โยงขึ้นมาให้หลวงปู่เสกเป็นเวลานานกว่า ๑ ปี จนแมวกับหนูตัวเป็นๆวิ่งมานอนเกลือกกลิ้งเล่นกัน ตรงพื้นดินบริเวณที่ฝังไหเครื่องราง ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เมื่อหลวงปู่เห็นว่าเครื่องรางมีพุทธคุณเข้มขลัง จึงบอกให้ลูกศิษย์ขุดขึ้นมาใช้ เป็นที่ต้องการของพ่อค้า แม่ค้า มีไว้ติดตัวทำมาค้าขายดี คนทำงานก็เช่นกันมีไว้ติดตัวนายเมตตา เพื่อนร่วมงานที่เคยกลั่นแกล้งต่างก็มาเป็นมิตร แม้แต่คนจีนแผ่นดินใหญ่ มาเลเซีย ฮ่องกง ต่างก็แสวงหาเพื่อให้ได้มาครอบครอง เพราะมีหนูดูดนมแมวไว้ติดตัวอธิษฐานอะไรก็สำเร็จ จนเป็นที่โด่งดัง “เครื่องรางหนูดูดนมแมว” ทำให้ผู้ที่นิยมเครื่องราง ที่มีพุทธคุณแรงๆทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ต่างก็รู้จัก หลวงปู่ถ้า อนาลโย พระกรรมฐานสายป่าเจ้าตำหรับวิชาเขมร
#ทำเนียบวัตถุมงคลและเครื่องลาง
**เหรียญครึ่งองค์ พญานาค
**หนูดูดนมแมวหันซ้าย หนูสามตัว
**หนูดูดนมแมวหันขวาวัดสร้างเอง
**ขุนแผนพรายพระกาฬ
**พระลักษณ์หน้าทอง
**หนูดูดนมแมวสามสี
**เหรียญอายุยืน
**เหรียญ และ ล็อคเก๊ตเมตตา๕๙
**รูปหล่อลอยองค์ อนันตโชค
**ขุนแผนกามเทพเสน่หาบูชาครู๖๐
**เสมารุ่น มหาบารมีเศรษฐีพันล้าน
**เหรียญพรหมสี่หน้า
**ผ้ายันต์หนูดูดนมแมว
**เหรียญเจริญพร หนุมานบัลดาลโชค
**พระผงหลวงปู่นาคา
**หนูดูดนมแมว รุ่น อิทธิฤทธิ์อนาลโย
**หนูดูดนมแมว รุ่น รวยทันใจ
และยังไม่รวมเครื่องรางอื่นๆอีกมากมาย
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม.. ทัช ร้อยเอ็ด 0994652994
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น